โกโก้มีแหล่งกำเนิดมาจากที่ใด

อากาศร้อนๆ แบบนี้หลายๆ ท่านคงกำลังมองหาเครื่องดื่มเย็นๆ สดชื่นๆ มาดับกระหายดับร้อนกันอยู่ใช่มั้ยหล่ะครับ ถ้าได้โกโก้เย็นๆ สักแก้วคงจะดีมั้ยใช่น้อย!!!  พอเราพูดถึงโกโก้แล้วเราก็เคยสงสัยกันมั้ยครับว่า ต้นกำเนิดมันมากจากที่ไหนกันแน่ จู่ๆ กลายมาเป็นผงโกโก้ให้เราชงกิน ทำช้อคโกแลตได้อย่างไร? แล้วไอ่ต้องโกโก้นี้มันปลูกกันที่ไหน ในประเทศไทยมีด้วยมั้ย เราจะไปหาคำตอบกันครับ

ทำความรู้จักกับ “โกโก้”

ต้นโกโก้ (Cacao Tree) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Theobroma Cacao ซึ่งนักพฤกษศาสตร์ (botanist) ชาวสวีเดน Carolus Linnaeus เป็นผู้ตั้งชื่อนี้ขึ้นมา โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากแถบอเมริกาใต้หรืออเมริกากลาง โดยบางกลุ่มของผู้ศึกษาเชื่อว่าต้นโกโก้กลุ่มแรกพบที่ “ต้นน้ำของแม่น้ำอะเมซอน (Amazon) ในตอนเหนือของบราซิล (North Brazil)” ในขณะที่อีกกลุ่มเชื่อว่าอยู่ที่ “หุบเขาโอริโนโค (Orinoco) ของประเทศเวเนซูเอลา (Venezuela)” ครับ ซึ่งต้นโกโก้จะเติบโตได้ดีนสภาพแวดล้อมที่พื้นที่บริเวณเส้นศูนย์สูตร 10 – 20 องศาลิปดา ไปทางเหนือและใต้ เราเรียกพื้นที่บริเวณนี้ว่า “Cocoa Belt”  ซึ่งต้นโกโก้โดยทั่วไปจะเติบโตภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ และจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 40 ฟุต หรือ 12 เมตร ผลของโกโก้จะมีขนาดยาวประมาณ 30 เซ็นติเมตร ผลโกโก้จะมีสีออกเหลืองน้ำตาลถึงม่วง และมีเมล็ดอยู่ภายในถึง 20-40 เมล็ด

ปัจจุบันต้นโกโก้สามารถพบได้ในพื้นที่เขตร้อนของโลก เช่น แอฟริกาใต้ (South Africa), ไนจีเรีย (Nigeria), กาน่า (Ghana), ไอวอรี่โคสต์ (Ivory Coast) และบางประเทศในทวีปเอเซีย เช่น อินโดนีเซีย (Indonesia) ซึ่งนับได้ว่าทวีปเอเชียที่ผลิตโกโก้ได้ในปริมาณสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ครับ 

สวนโกโก้ในประเทศไทย

ในประเทศไทยเองก็มีการปลูกต้นโกโก้เช่นกันครับ ซึ่งมักจะปลูกในแถบจังหวัดภาคเหนืออย่างจังหวัดน่าน เชียงราย พิษณุโลกและจันทบุรี ซึ่งล้วนแล้วมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเพาะปลูกครับ

5 สพรรณคุณของโกโก้

1.มีสารต้านอนุมูลอิสระ โกโก้อุดมไปด้วยโพลีฟีนอล (Pholyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดความดันโลหิต และยังช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเส้นเลือด
2.ช่วยให้อารมณ์ดี การกินโกโก้ส่งผลดีต่ออารมณ์ และภาวะซึมเศร้า ช่วยลดความเครียด และรทำให้ผ่อนคลาย คาดว่าในโกโก้อาจจะมีสารที่ไปกระตุ้นให้สมองหลั่ง สารโดปามีน และสารเซโรโทนิน (สารแห่งความสุข) จึงทำให้คนเรามีอารมณ์ดีและมีความสุขหลังได้ดื่มหรือกิน

3.ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ/เบาหวาน ในโกโก้มีฟลาโวนอยด์ มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มไนตริกออกไซด์ ช่วยขยายหลอดเลือด ลดคอเลสเตอรอลร้าย (LDL) จึงช่วยให้หัวใจมีสุขภาพที่ดี ลดโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤกษ์อัมพาต นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการหลังฮอร์โมนอินซูลินที่จะค่อยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวานได้อีกด้วย 

3.ช่วยทำให้ผิวสวย โกโก้มีสารโพลีฟีนอลที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เซลล์ในร่างกายชะลอการเสื่อมสภาพ ช่วยลดการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวดูสวย แก่ช้าลง

 5.ช่วยเร่งการเผาผลาญของร่างกาย สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักไม่ต้องกังวล เพราะในโกโก้มี สารโพลีฟีนอล ช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือด เร่งการเผาผลาญในร่างกาย

ในปัจจุบันมีการนำโกโก้ไปแปรรูปเป็นอาหารและส่วนผสมต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเครื่องดื่ม ขนม อาหารจานหนัก เป็นต้น และนอกจากความอร่อยแล้วยังมีสพรรณคุณที่มีประโยชน์มากมายอีกด้วยครับ เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นปะโยชน์นะครับ