ทำความรู้จักกับเค้กประเภทต่างๆ

เค้กประเภทต่างๆ

เมื่อให้ทุกๆ ท่านคิดถึงขนมหวานแสนอร่อยกันแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “เค้ก” จะเป็นขนมชนิดแรกๆ ใครต่างหลงใหลในความอร่อยของมันกันอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงอยากขอพาทุกๆ ท่านไปพบกกับ “เค้กประเภทต่างๆ ” กันครับ จะมีเค้กแบบไหนกันบ้างนั้น…เราไปดูกันดีกว่าครับ

ต้นกำเนิดเค้ก

     “ขนมเค้ก” (cake) เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มักจะมีรสหวานและผ่านกระบวนการอบ ซึ่งจะทำมาจากแป้ง น้ำตาล และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ไข่ ผัก และผลไม้ที่ให้รสหวานหรือเปรี้ยว หรือส่วนประกอบที่มีไขมัน เช่น เนย ชีส ยีสต์ นม เป็นต้น และนิยมรับประทานเป็นของหวาน และฉลองในเทศกาลต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเกิดและวันแต่งงาน ซึ่งในโลกมีตำรับหรือสูตรการทำเค้กเป็นจำนวนล้านๆ สูตร ขนมเค้กมีหลากหลายชนิด อาทิ ชีสเค้ก ฟรุตเค้ก แพนเค้ก เค้กเนยสด และแยมโรล เป็นต้น โดยกำเนิดเริ่มจากปี 1843 คุณอัลเฟรด เบิร์ด (Alfred Bird 1811-1878) นักเคมีชาวอังกฤษได้ค้นพบ “ผงฟู” หรือ “baking powder” ทำให้เขาสามารถทำขนมปังชนิดที่ไม่มียีสต์ให้กับภรรยาของเขา อลิซาเบธ (Elizabeth) ได้เป็นครั้งแรกเนื่องจากภรรยาของเขาเป็นโรคภูมิแพ้เกี่ยวกับ ไข่ และ ยีสต์ ซึ่งในราวศตวรรษที่ 13 มีการค้นพบหลักฐานการอบขนมเค้กขั้นแอดวานซ์ที่เก่าแก่ที่สุดจากชาวอียิปต์ โบราณโดยมักจะเป็นรสชาติของเค้กผลไม้ และGinger bread รูปแบบเค้กทรงกลมที่เราเห็นกันทุกวันนี้ เริ่มราวกลางศตวรรษที่ 17 ในยุโรป ซึ่งเป็นช่วงที่มีพัฒนาการของเตาอบ แบบพิมพ์ขนมและน้ำตาลทราย รสชาติที่นิยมก็ยังเป็นรสผลไม้

ประเภทของเค้กแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ

●เค้กไข่ (foam cake) เป็นเค้กที่ขึ้นฟูโดยตีฟองอากาศเข้าไปในไข่ แบ่งย่อยเป็น 3 ชนิดคือ

●ชิฟฟอนเค้ก (chiffon cake) ชิฟฟอนเค้ก หรือ ชีฟองเค้ก ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันมากในกลุ่มผู้ที่ต้องการบริโภคเค้กที่มีไขมันไม่มาก และรสชาติที่ไม่เลี่ยนจนเกินไปและด้วยเอกลักษณ์ประจำตัว นั่นก็คือความนุ่มละมุนละไมอีกทั้งสามารถดัดแปลงรสชาติได้มากและหลากหลาย ทั้งยังขายง่ายต้นทุนต่ำได้กำไรสูง จึงทำให้มีผู้สนใจในการประกอบกิจการเพื่อผลิตและจำหน่ายเป็นจำนวนมาก

●เค้กเนย (butter cake) ส่วนผสมหลักที่ทำให้ขึ้นฟูคือเนย โดยจะตีเนยกับน้ำตาลให้เป็นครีมฟูก่อน จึงเติมไข่ นม และแป้ง แบ่งย่อยได้อีกหลายชนิด เช่น เค้กชั้น ฟรุตเค้ก และเค้กปอนด์ ซึ่งหมายถึง เค้กที่ทำจากแป้งสาลีหนึ่งปอนด์ น้ำตาลหนึ่งปอนด์และ เนยหนึ่งปอนด์

●เค้กไข่ขาว (angle food cake) ใช้ไข่ขาวล้วน ไม่ใส่ไข่แดงและไขมันใด ๆ แต่ใส่น้ำตาลมาก

●สปันจ์เค้ก (sponge cake) เป็นเค้กที่ตีไข่ทั้งฟองกับน้ำตาลให้ขึ้นฟู

●มูสเค้ก (mousse cake) เป็นเค้กที่ตีไข่ขาวหรือวิปครีมให้ฟูก่อนจะผสมกับส่วนผสมอื่น ทำให้เค้กนุ่ม เบา มักใส่เจลาตินเพื่อช่วยให้คงรูป และต้องแช่เย็นไว้จนกว่าจะรับประทาน

●ชีสเค้ก (cheesecake) เป็นเค้กที่มีครีมชีสเป็นองค์ประกอบหลัก มีทั้งแบบอบ และแบบไม่อบแต่ใส่เจลาตินเป็นตัวช่วยให้คงรูปร่าง การเก็บรักษาต้องแช่เย็น

เคล็ดดับความอร่อยของเค้กขึ้นอยู่กับอะไร?

●เค้กต้องมีสีของผิวรอบนอก ควรเป็นสีเหลืองทอง หรือสีน้ำตาลอ่อนสม่ำเสมอ

●สีของเนื้อใน เป็นไปตามเครื่องปรุงหรือส่วนผสม เช่น ใช้ช็อกโกแลต ก็ควรเป็นสีน้ำตาล

●เค้กจะต้องมีลักษณะของขอบรอบนอก เรียบสม่ำเสมอกัน

●เค้กจะต้องมีลักษณะของหน้าขนม มัน เรียบ ไม่นูนเป็นแห่ง ๆ

●การขึ้นฟูเป็นไปตามปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผลิต น้ำหนักเบาเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณของขนม

●ลักษณะของเนื้อใน ละเอียด ไม่แน่น หนัก มีความชื้น ไม่ร่วน หรือแฉะ

●มีความนุ่มนวล นิ่ม เมื่อเอามือแตะเบา ๆ จะมีสปริง หรือหยุ่นกลับที่เดิม เนื้อไม่แน่น มีกลิ่นหอมชวนรับประทาน

●รสชาติกลมกล่อม เป็นไปตามเครื่องปรุง และส่วนผสมไม่มีรสผิดไป เช่น มีรสเฝื่อน ปล่า เป็นต้น

●กลิ่นหอมชวนรับประทาน ไม่มีกลิ่นหืน

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “เค้กประเภทต่างๆ ” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้น เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์และทำให้ทุกๆ ท่านได้ทราบถึงข้อมูลกันมากขึ้น ไม่มากก็น้อยกันนะครับ

You May Also Like

อาหารรสจัด

ทำไมจึงไม่ควรกินอาหารรสจัดบ่อยๆ

การกินเจ

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ “การกินเจ”

ผลไม้ GMO

ผลไม้ GMO มีผลข้างเคียงหรือไม่?

อาหารสำหรับผู้ที่จะลดน้ำหนัก

4 แนวทางการเลือกกินอาหารสำหรับคนลดน้ำหนัก