Year: 2022

การที่อาหารหรือขนมต่างๆ จะอร่อยได้นั้น…นอกจากรสชาติที่ถูกปากแล้ว “วัตถุดิบ” ตั้งต้น ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบอาหาร ต้องคำนึงและให้ความสำคัญเช่นกัน อย่างการอบขนมอบเค้กให้อร่อยนั้น “แป้ง” ก็เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นอย่างมากก็ว่าได้ครับ วันนี้เราจะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “เลือกแป้งทำเค้กอย่างไรให้เหมาะสม” กันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราดูกันดีกว่า!! แป้งสำหรับทำขนมเป็นอย่างไร? แป้งที่ใช้ทำขนมเบเกอรี่ เรียกรวมว่า แป้งสาลี (Wheat flour) เนื่องจากแป้งเหล่านี้ทำมาจากข้าวสาลี แต่ก็ยังมีแป้งที่ทำมาจากพืชชนิดอื่นๆ อาทิ แป้งข้าวโพด แป้งมันสำปะหลัง แป้งมันฝรั่ง หรือแป้งข้าวไรย์ (Rye) แต่ในการทำเบเกอรี่ส่วนมาก จะใช้แค่แป้งสาลี แป้งทำขนมมีแบบใดบ้าง ● แป้งเค้ก (Cake flour) เป็นแป้งที่มีความละเอียด มากที่สุดในบรรดาสามชนิดที่ใช้ทำขนม จึงนิยมนำมาทำขนมเค้กชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสปันจ์ ชิฟฟ่อน หรือเค้กที่มีลักษณะฟูๆเบาๆ ทุกชนิด หากเราใช้แป้งชนิดอื่นมาทำเค้กแทนแป้งเค้ก จะทำให้เค้กของเราไม่นุ่ม และไม่ยกตัวเท่าที่ควร ● แป้งเอนกประสงค์ (All-purpose flour) คือสามารถทำขนมได้เกือบทุกชนิดในกรณีที่เราไม่มีแป้งชนิดอื่นอยู่ในมือค่ะ แต่ถ้าพูดถึงขนมที่นิยมใช้แป้งเอนกประสงค์ทำล่ะก็ หนีไม่พ้นประเภท บราวนี่ คุกกี้ พาย ทาร์ต หรือชูว์ครีมค่ะ ●แป้งขนมปัง (Bread flour) เป็นแป้งที่มีเนื้อสัมผัสหยาบที่สุดในบรรดาแป้งที่กล่าวมา นิยมใช้ทำขนมปังทุกชนิดเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นขนมปังไส้ต่างๆ ขนมปังปอนด์ ขนมปังโลฟ หรือขนมปังฝรั่งเศส แบบเปลือกแข็ง ก็ใช้แป้งชนิดนี้ทำได้ค่ะ ● แป้งบัวแดง แป้งบัวแดง เป็นแป้งที่มีความละเอียดมากกว่าแป้งเค้ก นิยมนำไปใช้ทำซาลาเปา หรือขนมไทย อาทิ ขนมถ้วยฟู ...

ว่ากันด้วยเรื่องของขนมหวานอย่าง “ขนมเค้ก” นั้น มีมากมายหลายประเภทอีกด้วยหล่ะครับ ซึ่งหนึ่งในประเภทขนมเค้กที่น่าสนใจที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้ ก็คือ “เค้กผลไม้” นั้นเองครับ บทความนี้จะพาทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักกับเค้กพร้อมกับพาไปพบกับ “5 เค้กรสผลไม้ที่คุณต้องลอง” กันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปชมกันดีกว่าครับ ประเภทของเค้กที่น่าสนใจ ● เค้กเนยสด (Butter cake)        เค้กเนยสด หรือ Butter cake เป็นเค้กมีที่ลักษณะเนื้อแน่นๆ ฉ่ำเนย มีความนุ่มและหอมมัน ตามชื่อเค้กเลยคือจะได้กลิ่นเนยเป็นหลัก มีส่วนผสม 3 ส่วนหลักๆ คือ เนย แป้ง และน้ำตาล ส่วนร้านอื่นอาจจะมีการปรับสูตรไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่มักจะนิยมรับประทานเฉยๆ เพราะตัวเค้กมีรสชาติหอมมันในตัวอยู่แล้ว เป็นเค้กที่มีความนิยมค่อนข้างสูง ●  ชีสเค้ก (Cheesecake)       ชีสเค้ก (Cheesecake) เชื่อว่าเป็นประเภทเค้กที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ชีสเค้กหน้าไหม้ บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก สตอร์เบอร์รี่ชีสเค้ก และอื่นๆ เนื้อเค้กจะมีความนุ่ม ละมุน ละลายในปาก ได้รสชาติของครีมชีสแบบเต็มปากเต็มคำ แต่จะมีรสชาติค่อนข้างหนัก กินเยอะๆ อาจจะเลี่ยนได้ เค้กชนิดนี้นิยมกินคู่กับซอสผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน เพื่อตัดเลี่ยน รสชาติจะเข้ากันได้ดี มีทั้งแบบอบและไม่อบ ●เครปเค้ก (Crepe cake)       เครปเค้ก หรือ Crepe cake เป็นเค้กอีกหนึ่งชนิดทีทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ความพิเศษของเค้กชนิดนี้คือไม่ต้องอบ สามารถตีแป้งแล้วลงไปทอดในกระทะได้เลย เนื้อเค้กประกอบไปด้วยแป้งสาลี ไข่ น้ำตาล นม เนย ​ผสมกัน ...

เมื่อให้ทุกๆ ท่านคิดถึงขนมหวานแสนอร่อยกันแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “เค้ก” จะเป็นขนมชนิดแรกๆ ใครต่างหลงใหลในความอร่อยของมันกันอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงอยากขอพาทุกๆ ท่านไปพบกกับ “เค้กประเภทต่างๆ ” กันครับ จะมีเค้กแบบไหนกันบ้างนั้น…เราไปดูกันดีกว่าครับ ต้นกำเนิดเค้ก      “ขนมเค้ก” (cake) เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มักจะมีรสหวานและผ่านกระบวนการอบ ซึ่งจะทำมาจากแป้ง น้ำตาล และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ไข่ ผัก และผลไม้ที่ให้รสหวานหรือเปรี้ยว หรือส่วนประกอบที่มีไขมัน เช่น เนย ชีส ยีสต์ นม เป็นต้น และนิยมรับประทานเป็นของหวาน และฉลองในเทศกาลต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเกิดและวันแต่งงาน ซึ่งในโลกมีตำรับหรือสูตรการทำเค้กเป็นจำนวนล้านๆ สูตร ขนมเค้กมีหลากหลายชนิด อาทิ ชีสเค้ก ฟรุตเค้ก แพนเค้ก เค้กเนยสด และแยมโรล เป็นต้น โดยกำเนิดเริ่มจากปี 1843 คุณอัลเฟรด เบิร์ด (Alfred Bird 1811-1878) นักเคมีชาวอังกฤษได้ค้นพบ “ผงฟู” หรือ “baking powder” ทำให้เขาสามารถทำขนมปังชนิดที่ไม่มียีสต์ให้กับภรรยาของเขา อลิซาเบธ (Elizabeth) ได้เป็นครั้งแรกเนื่องจากภรรยาของเขาเป็นโรคภูมิแพ้เกี่ยวกับ ไข่ และ ยีสต์ ซึ่งในราวศตวรรษที่ 13 มีการค้นพบหลักฐานการอบขนมเค้กขั้นแอดวานซ์ที่เก่าแก่ที่สุดจากชาวอียิปต์ โบราณโดยมักจะเป็นรสชาติของเค้กผลไม้ และGinger bread รูปแบบเค้กทรงกลมที่เราเห็นกันทุกวันนี้ เริ่มราวกลางศตวรรษที่ 17 ในยุโรป ...

หากว่ากันด้วยเรื่องของกินที่ใครๆ ก็ชอบที่จะหามารับประทานกัน ซึ่งจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก “ขนม” นั้นเองหล่ะครับ แล้วถ้าเป็นขนมหวานแสนอร่อยที่สามารถกินได้กับทุกช่วงกิจกรรมและเทศกาล คุณจะนึกถึงขนมชนิดใดกันนะ.. ใช่ เอ่อ… “ขนมเค้ก” แบบที่พวกเราคิดหรือเปล่า 555+ เอาเป็นว่า วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักกับเจ้า “ขนมเค้ก” กัน พร้อมกับแนะนำ  “วิธีทำเค้กโฮมเมดแบบง่ายๆ” ให้อีกด้วยครับ จะเป็นอย้างไรบ้างนั้น… เราไปลุยกันเล้ยย!! รู้จักกับขนมเค้ก เค้ก (cake) เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มักมีรสหวานและผ่านกระบวนการอบ ทำมาจากแป้งสาลี, น้ำตาล และส่วนประกอบอื่นแล้วแต่ชนิดของเค้ก เช่น ไข่ ผัก ถั่ว ผลไม้ที่ให้รสหวานหรือเปรี้ยว ชีส คัสตาร์ด หรือส่วนประกอบที่มีไขมัน เช่น เนย นม เนยเทียม เป็นต้น[1] นิยมรับประทานเป็นของหวาน และเฉลิมฉลองในเทศกาลต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเกิดและวันแต่งงาน ซึ่งมีตำรับหรือสูตรการทำเค้กในที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก อีกทั้งตำรับการทำเค้กบางสูตรก็มีการสืบทอดการทำเป็นเวลาหลายศตวรรษ แสดงถึงความเป็นอาหารหวานที่นิยมไปทั่วโลก ปัจจุบันมีผู้สนใจที่อยากเรียนทำเค้กในจุดประสงค์ที่หลากหลาย อย่างเช่น เรียนเพื่อที่จะนำมาประกอบอาชีพเปิดร้านเค้ก เป็นต้น เค้กแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่…. ●เค้กเนย (butter cake) ส่วนผสมหลักที่ทำให้ขึ้นฟูคือเนย โดยจะตีเนยกับน้ำตาลให้เป็นครีมฟูก่อน จึงเติมไข่ นม และแป้ง แบ่งย่อยได้อีกหลายชนิด ●เค้กไข่ (foam cake) เป็นเค้กที่ขึ้นฟูโดยตีฟองอากาศเข้าไปในไข่ แบ่งย่อยเป็น 3 ชนิดคือ ชิฟฟอนเค้ก (chiffon ...

การกินอาหารคลีนในปัจจุบันนั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าสมัยก่อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีแนวทางการสั่งซื้อมากมาย มีวิธีการทำแบบง่ายๆ ให้ได้ทำตามกันในยูทูปหรือไอจีต่างๆ มากมายเลยหล่ะครับ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าแบบไหนถึงจะเรียกอาหารคลีนจริงๆ หรือที่กินๆ อยู่นั้นถือเป็นอาหารที่มีประโยชน์และเป็นอาหารคลีนจริงหรือไม่? บางทีอาจจะแค่ดูเหมือนแต่ซ่อนไขมันและสารอาหารที่ไม่มีประโชยน์มากมายก็ได้ครับ วันนี้จึงอยากมาบอกกล่าวให้กับท่านผู้อ่านรู้เท่าทันเกี่ยวกับ “5 อาหารที่ดูเหมือนจะคลีนแต่จริงๆ ไม่ใช่!” ให้กับทุกๆ ท่านได้จำและนำไปเตือนคนที่เรารักกันครับ อาหารคลีนเป็นอย่างไร? อาหารคลีน หมายถึง การกินอาหารที่ผ่านกรรมวิธีปรุงและแปรรูปน้อยที่สุด กล่าวได้ว่ามันคือการคืนรูปแบบในการปรุงอาหารที่เรียบง่าย เหมือนได้มาจากธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้วัตถุดิบยังคงเป็นวัตถุดิบที่คงไว้ซึ่งสารอาหารครบถ้วนนั้นเอง แบบไหนถึงเรียกว่า "คลีน"? การกินคลีนจะเน้นโปรตีนจากปลา ไก่ ไข่ งดอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก หลีกเลี่ยงการทอดที่ใช้น้ำมันมากๆ มาเป็นการทอดด้วยกระทะเทฟลอนที่ใส่น้ำมันน้อยๆ การต้ม หรือย่าง  สารอาหารอย่างคาร์โบไฮเดรต ควรเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มาจากธรรมชาติ เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท หรือเป็นน้ำตาลจากผลไม้ที่ให้ไฟเบอร์สูง เช่น แอปเปิล ผลเบอร์รี่ต่างๆ ไขมันดีจากปลาทะเลน้ำลึกหรือไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว เป็นต้น เน้นบริโภคแต่น้อยเพียงเพื่อให้ดูดซึมสารอาหารได้ครบถ้วน และเน้นบริโภคไขมันดี (HDL) เป็นหลัก เพราะไขมันไม่ดี (LDL) อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของคอเลสเตอรอลในร่างกายสูงได้นอกจากนี้ควรงดขนมขบเคี้ยวที่เป็นคาร์ปและโซเดียมสูง และเปลี่ยนมากินถั่วและเมล็ดพืชที่ไม่โรยเกลือแทนการกินผักผลไม้จะเน้นผักสดหรือผลไม้สด หรือผ่านการปรุงแต่งที่น้อยที่สุด 5 อาหารที่ดูเหมือนจะคลีนแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ 1.ข้าวมันไก่พิเศษ ไม่เลือกเนื้อส่วนอกไก่และเอาหนังออก เป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยยอดฮิตที่ใครหลายๆ คนชอบรับประทานกันครับ คงจะเคยสักเกตกันใช่มั้ยหล่ะครับว่า... เนื้อไก่ส่วนต่างๆ นั้นมีปริมาณไขมันดีและไขมันไม่ดีแตกต่างกัน ซึ่งถ้าจะให้เป็นอาหารคลีนนั้นจะต้องทำการแยกหนังและเลือกเนื้อส่วนอกไก่ถึงจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุดครับ 2.สลัดปลาแซลม่อน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่แสนอร่อย โดยที่ใครหลายๆ คนที่รักในการกินและรักษาสุขภาพ ซึ่งด้วยความเป็นจริงแล้วตัวเนื้อปลาแซลม่อนถึงแม้จะประโยชน์ มีโอเมก้าสามที่จำเป็นกับร่างกายของเราแต่ก็สอดแทรกด้วยไขมันเป็นจำนวนมากเลยหลาะครับ เพราะฉะนั้น ทานกันแต่พอดีนะครับ 3.ปลากระพงนึ่งมะนาว เป็นอีกหนึ่งเมนูของชาวที่มีความอร่อยถูกปากเป็นอย่างมาก ...

หากกล่าวถึงการทำขนมเค้กนั้น นับว่าเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คนกันเลยก็ว่าได้ครับ เพราะนอกจากความอร่อยของเค้กแล้ว การได้ลงมือทำเค้กและแต่งหน้าด้วยตัวเองถือเป็นสิ่งที่หน้าภาคภูมิใจไมใช่น้อยเลยหล่ะ จะทำกินเองก็ได้ ทำให้คนที่เรารักก็ดี แถมถ้ามีฝีมือมากๆ สามารถทำขายกันได้เลยหล่ะครับ นอกจากรสชาติแล้ว ความสวยงามและหน้าดึงดูดถือเป็นปัจจัยหลักๆ ในการกินเค้ก ดังนั้นในวันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านที่มีใจรักในการทำขนมไปพบกับ “เทคนิคการตกแต่งหน้าเค้ก ฉบับมือใหม่” กันครับ แต่ก่อนอื่นเรามาศึกษาเค้กปประเภทต่างๆ และส่วนประกอบของเค้กเบื้องต้นกันก่อนดีกว่าครับ เค้กมีกี่ชนิดและมีส่วนประกอบอะไรบ้าง? เค้กเป็นผลิตภัณฑ์ขนมอบอีกชนิดหนึ่งที่นิยมบริโภคกันทั่วไปและสามารถทานได้ในทุกเทศกาลไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่ วันคริสต์มาส วันเกิด วันสำคัญต่างๆ  บ้างก็นิยมรับประทานเค้กที่มีเนื้อละเอียด เบา นุ่ม  แต่บางคนก็ชอบเนื้อเค้กที่มีความมัน  เนื้อละเอียด  มีน้ำหนัก โดยจะมีส่วนผสมหลักที่แตกต่างกันไปในแต่ละสูตรแต่ละส่วนผสม ซึ่งส่วนผสมหลักๆ จะประกอบไปด้วย • แป้งสาลี    แป้งสาลีที่ใช้ทำเค้ก• น้ำตาล  น้ำตาลเป็นตัวทำให้เค้กมีรสหวาน  และยังทำให้เค้กนุ่ม  เพราะน้ำตาลมีผลทำให้โปรตีนในแป้งอ่อนตัว  ช่วยให้เค้กเก็บได้นานขึ้น • ไขมัน  โดยจะมีหน้าที่จับตัวกับอากาศในขณะผสมเค้ก  อากาศที่ไขมันเก็บไว้ในระหว่างการตีจะทำให้ตัวทำเค้กมีความนุ่ม ซึ่งไขมันที่ใช้ในการทำเค้กโดยทั่ว ๆ ไปได้แก่ เนยสด  เนยขาว เป็นต้น ซึ่งเนยเป็นไขมันที่ให้กลิ่นและรสดีที่สุดในจำนวนไขมันทุกชนิดที่ใช้ในการทำขนมอบ  ดังนั้นในการทำเค้กจึงนิยมใช้เนยในการทำเค้กนั้นเอง• เกลือ เป็นตัวทำให้เกิดรสชาติในขนมเค้ก  คือให้ความเค็มและยังเป็นตัวช่วยเน้นรสชาติของส่วนอื่นๆ ให้ดีขึ้นและยังมีส่วนช่วยทำให้เค้กแข็งตัวอีกด้วย• ไข่ไก่   มีหน้าที่ช่วยให้เกิดการจับตัวของแป้ง สร้างกลิ่น รส สี ความชื้นและคุณค่าอาหารแก่ขนมเค้ก และไข่จะเป็นตัวช่วยเก็บอากาศในระหว่างตี ทำให้ขนมขึ้นฟูในเค้ก• นม  ที่นิยมใช้ในการทำเค้กก็คือ “นมสด” ทำหน้าที่ทำให้เค้กเกิดความแข็งและให้ความชื้นได้ดีด้วย• สารปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติ   สิ่งเหล่านี้ใช้ผสมในเค้กเพื่อให้เกิดรสเฉพาะตัวซึ่งการเลือกใช้กลิ่นและรส ควรเลือกให้เหมะสมกับชนิดของเค้กที่ทำด้วย เค้กแบ่งออกเป็น ...

คงมีหลายท่านไม่ใช่น้อยที่ชื่นชอบในรสชาติของคุกกี้อย่างแน่นอน  ซึ่งคุกกี้มักจะถูกใช้เป็นขนมขบเคี้ยวในยามว่างอยู่เสมอๆ ปัจจุบันเทรนด์การรักสุขภาพก็กำลังมาแรงในเพราะเรื่องของสุขภาพนั้นไม่เข้าใครออกใคร หากดูแลร่างกายได้ก็ค่อยที่จะหมั่นเอาใจใส่อยู่เสมอเช่นเดียวกับในเรื่องของการกินขนมอย่าง “คุกกี้” เราก็สามารถทำกินเองแบบรักสุขภาพแบบคลีนๆ ได้เช่นกัน ในบทความนี้จะขอแนะนำหนุ่มสาวและผู้ที่มีใจรักในการกินคุกกี้และต้องการดูแลสุขภาพไปพร้อมกันได้รู้จักกับ “คุกกี้สูตรคลีน ทำกินเองได้ไม่อ้วน” ให้ได้ลองนำไปทำกินเองที่บ้านกันครับ จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันดีกว่าครับ เทรนด์การกินคลีนเป็นอย่างไร? “การกินคลีน” มีที่มาจากการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง หรือผ่านกรรมวิธีการปรุงให้น้อยที่สุดอย่างผักสด ผลไม้สด เนื้อสัตว์ที่ผ่านการปรุงสุกแต่ไม่ปรุงแต่งรสชาติ ธัญพืช เป็นต้น โดยส่วนใหญ่การกินคลีนมักเป็นอาหารที่เราปรุงเอง เป็นเมนูง่ายๆ ที่บ้าน ซึ่งก็มีหลายๆ คนที่สงสัยในเรื่องของรสชาติ ว่าอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งจะอร่อยได้อย่างไร จริงๆ แล้วเราสามารถปรุงเมนูคลีนให้ได้รสชาติอร่อยจากการดึงเอารสชาติในแต่ละวัตถุดิบมารวมเข้าไว้ด้วยกันโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรุง 3 สูตรคุกกี้คลีนๆ แสนอร่อย กินแล้วไม่อ้วน!! 1.คุกกี้แอลมอนด์วัตถุดิบและส่วนผสม●แอลมอนด์ผง 350 กรัม● โยเกิร์ต 1 ถ้วย● งาขาวงาดำสำหรับโรย●ผงฟู 2 ช้อนชา วิธีการทำ คุกกี้แอลมอนด์●ร่อนแอลมอนด์ผสมกับผงฟู โดยทำประมาณ 2 รอบ จากนั้นเทโยเกิร์ตลงในส่วนที่ร่อนพร้อมกับนวดให้เข้ากัน ●เมื่อผสมกันได้ที่แล้วให้ปั้นคุกกี้ตามแบบที่ต้องการ แล้วโรยงาลงไป●เอาเข้าเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 180 – 200 องศา อบประมาณเป็นเวลา 15 – 20 นาที●นำออกจากเตาอบ ผึ่งให้เย็นและแกะออกจากถาด จากนั้นก็ทานได้เลย 2.คุกกี้อินทผาลัมเกล็ดมะพร้าว  วัตถุดิบและส่วนผสม●ไข่ไก่ 1 ฟอง●แป้งโฮลวีต 1 ถ้วย●เกล็ดมะพร้าว 3/4 ถ้วย●อินทผาลัมหั่นเต๋า 2 ถ้วย●ถั่วสับหยาบ 3/4 ถ้วย●น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย●นมสดรสจืด 5 ช้อนโต๊ะ●เกลือ 1/4 ...